เสริมฮวงจุ้ยให้บ้านด้วยภาพสัตว์มงคล

          ความเชื่อเรื่องฮวงจุ้ยนั้นเป็นศาสตร์ที่อยู่เคียงคู่ชาวไทยมายาวนาน ปัจจุบันการแต่งบ้านตามหลักฮวงจุ้ยยังคงเป็นที่นิยมอยู่เสมอ และหนึ่งในสิ่งที่ถูกนำมาใช้เพื่อเสริมมงคลชีวิตให้กับบ้านก็รูปภาพ รูปภาพเป็นสิ่งที่นอกจากจะช่วยให้บ้านของเราดูสวยงามหรูหราแล้ว ยังช่วยเสริมฮวงจุ้ยในด้านโชคลาภเงินทอง ความร่วมเย็น อำนาจบารมี และทำให้สมาชิกในบ้านมีแต่ความสุข โดยเฉพาะการประดับบ้านด้วยสัตว์มงคลตามหลักฮวงจุ้ย ก็ยังยิ่งส่งเสริมดวงการเงินและนำพลังงานด้านดีเข้าสู่ตัวบ้านได้มากยิ่งขึ้น โดยสัตว์มงคลแต่ละประเภทก็จะเสริมฮวงจุ้ยในด้านต่างๆ ดังนี้

 

1.มังกร

          มังกรเป็นสัตว์เทพศักดิ์สิทธิ์ของชาวจีนซึ่งมีพลังหยางที่รุนแรงมากจนถูกนำมาใช้เป็นตัวแทนจักรพรรดิมังกรเป็นสัตว์ที่น่าเกรงขามที่ถือไข่มุกไว้ในอุ้งเท้า และเพราะแบบนั้น มังกรจึงถูกใช้เป็นสัญลักษณ์ของความแข็งแกร่ง อำนาจบารมี ความกล้าหาญ อดทน การประดับภาพมังกรเอาไว้จะช่วยส่งเสริมโชคลาภวาสนา ธุรกิจรุ่งเรือง เพราะมังกรจะช่วยเรียกทรัพย์ให้กับผู้ที่ธุรกิจ ตามหลักฮวงจุ้ยเชื่อว่า หากแขวนภาพไว้ที่ทิศตะวันออกของบ้านจะช่วยส่งเสริมให้ลูกชายในบ้านเก่งและฉลาดอีกด้วย

2. หงส์

          หงส์เป็นสัตว์เทพตามความเชื่อของชาวจีน เป็นนกที่มีขนสวยงามเหมือนไก่ฟ้า ตาเหมือนเหยี่ยว ขายาวเหมือนนกกระยาง หงส์เป็นสัตว์มงคลที่เป็นสัญลักษณ์ของความสุข ความสง่างาม และความเจริญรุ่งเรือง นอกจากนี้ พลังหยางของหงส์ยังทำให้เกิดโชคลาภและโอกาส ร้านค้านิยมประดับรูปหงส์เอาไว้ในตำแหน่งที่ชั้นเจน เพราะมีความเชื่อว่าจะช่วยให้ธุรกิจประสบความสำเร็จและเจริญก้าวหน้า และหากประดับเอาไว้ในบ้าน ก็ช่วยให้บ้านหลังนั้นมีแต่ความสงบสุข คนในบ้านรักใคร่ปลองดอง เพราะหงส์เป็นสัตว์เทพที่จะช่วยนำสิ่งดีๆเข้ามาในบ้านและครอบครัวอยู่เสมอ

3.ม้า

          ม้าเป็นสัตว์ที่เปี่ยมไปด้วยพลังและเป็นสัญลักษณ์ของขุนนาง ชนชั้นสูง ตามหลักฮวงจุ้ย การประดับภาพม้าจะช่วยให้ธุรกิจการค้า การงานประสบความสำเร็จได้อย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะม้าแปดตัวที่เชื่อว่าจะช่วยนำความสำเร็จมาจากทั้ง 8 ทิศมาสู่เจ้าของบ้าน และเพราะคุณสมบัตินี้ ร้านค้าจึงนิยมนำภาพม้า 8 ตัวมาประดับในร้าน เพราะต้องการความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่ รวดเร็ว ว่องไว สามารถทำการค้าได้ทั้ง 8 ทิศ การติดตั้ง รูปม้า นิยมให้หัวม้าหันหน้าเข้าสู่ตัวบ้านหรือร้านค้าโดยยึดประตูเข้าออกเป็นหลัก และเลือกม้าที่มีลักษณะกำลังวิ่งหรือกระโจนทะยาน เพื่อให้ม้านำความสำเร็จเข้ามาสู่ครอบครัวนั้นเอง

4.เสือ

         เสือเป็นสัญลักษณ์ของผู้มีอำนาจ ความกล้าหาญ แข็งแกร่ง เป็นผู้นำ ป้องกันสิ่งร้ายๆ และส่งเสริมธุรกิจให้ราบรื่นปลอดภัย นิยมนำไปติดไว้ในห้องทำงานหรือบ้านของคนที่เป็นผู้บริหารเพื่อเสริมบารมี ให้ผู้ใต้บังคับบัญชาเคารพเชื่อฟัง การประดับรูปเสือนิยมนำไปประดับไว้ที่ทิศเหนือ ทิศตะวันออก หรือด้านซ้ายของห้องหรือตัวบ้าน เสือที่อยู่ในภาพควรเป็นเสือที่ดูอวบอิ่ม มีท่าทางที่กำลังหมอบ เดินขึ้นภูเขา หรือเตรียมกระโจนอย่างสง่างาม ไม่ควรเลือกภาพเสือที่ดูดุ น่ากลัว หรือผอมเกินไปเพราะจะทำให้ลูกน้องกลัวและรู้สึกกดดันได้

5.นกกระเรียน

         นกกระเรียนเป็นสัตว์มงคลที่เป็นสัญลักษณ์ของความยั่งยืน ในตำนานกล่าวว่านกกระเรียนเป็นพาหนะของเทพโซว่เทพแห่งความยั่งยืนของชาวจีน ชาวจีนในอดีตจึงนิยมมอบสิ่งของที่ปักลายนกกระเรียนเอาไว้เป็นของขวัญเพื่อให้ผู้รับมีอายุมั่นขวัญยืน ตามหลักฮวงจุ้ย นกกระเรียนเป็นสัญลักษณ์ของความเจริญรุ่งเรือง อำนาจวาสนา มีอายุที่ยืนยาว สุขภาพร่างกายแข็งแรงสมบรูณ์ คนหนุ่มคนสาววัยทำงานก็จะส่งผลให้หน้าที่การงานราบรื่นไม่มีอุปสรรค ส่วนคนที่อยู่ในวัยศึกษาเล่าเรียนก็จะช่วยส่งเสริมการเรียนที่ดี ตำแหน่งที่ประดับนกกระเรียนมักจะเป็น ห้องนอน ห้องอาหาร ห้องรับแขก ห้องทำงาน ตำแหน่งที่ไม่ควรติด คือ ห้องครัว ห้องน้ำ และห้องส้วม

6.ปลาคาร์ฟ

         ปลาคาร์ฟเป็นอีกหนึ่งสัตว์มงคลตามหลักฮวงจุ้ย ตามตำนานปลาคาร์ฟได้ว่ายทวนน้ำไปสู่จุดหมายและกลายเป็นมังกร ชาวจีนจึงนำปลาคาร์ฟมาเป็นสัญลักษณ์ของความมุ่งมั่น ขยันอดทน และความสำเร็จ

นอกจากนี้ ปลาคาร์ฟในภาษาจีนกลางยังออกเสียงว่า หลีหยู้ ซึ่งจะพ้องกับเสียงที่สื่อความหมายเดียวกับคำว่าปลาแห่งผลกำไร คนจีนจึงใช้ปลาคาร์ฟแทนเรื่องผลกำไร ผลประโยชน์จากการค้าขายทำธุรกิจ ภาพปลาคาร์ฟเป็นที่ยอมรับอย่างกว้างขวางโดยเฉพาะชาวจีน ญี่ปุ่น แม้แต่ประเทศในแถบยุโรป ตามหลักฮวงจุ้ย ภาพปลาคราฟมีอำนาจสามารถช่วยเสริมฮวงจุ้ยด้านการค้าขาย ร่ำรวย เป็นสัญลักษณ์ของผลกำไรหรือผลประโยชน์จากการทำธุรกิจ

นี่คือตัวอย่างภาพสัตว์มงคลที่ควรมีประดับบ้าน อย่างไรก็ตาม ถึงแม้ภาพสัตว์มงคลจะช่วยส่งเสริมดวงด้านต่างๆให้ดีขึ้นตามหลักฮวงจุ้ย แต่สิ่งที่สำคัญจะทำให้เราประสบความสำเร็จคือการลงมือทำและขยันอดทน เพื่อสร้างเส้นทางและความสำเร็จที่ยั่งยืนให้ตัวเองนั้นเอง