สิ่งที่ควรรู้ก่อนเลือกบริษัทรับสร้างบ้าน

2 พ.ค. 2566
          การสร้างบ้านหนึ่งหลังไม่ใช่เรื่องเล็ก เพราะไม่ว่าใครก็ย่อมอยากที่จะมีบ้านในฝันที่สวยงามดันทั้งนั้น และบริษัทรับสร้างบ้านก็เป็นอีกหนึ่งทางเลือกสำหรับผู้ที่ต้องการสร้างบ้านที่ได้มาตรฐาน แม้จะคล้ายคลึงกับการใช้บริการรับเหมาก่อสร้าง แต่การใช้บริษัทจะทำให้คุณมีหลักประกันว่าจะได้บ้านตรงตามที่ต้องการโดยไม่ถูกทิ้งงานกลางคันแน่นอน เนื่องจากบริษัทรับสร้างบ้านจะมีการทำสัญญาเป็นลายลักษณ์อักษรที่ชัดเจนทั้งเรื่องกำหนดระยะเวลาและวงเงินที่ใช้ จึงทำให้ไม่มีปัญหาเรื่องงบประมาณบานปลาย นอกจากนี้ยังมีแบบบ้านให้ลูกค้าเลือกได้มากมาย ทั้งนี้ ก่อนจะตัดสินใจเลือกบริษัท ก็มีบางสิ่งที่คุณควรพิจารณาให้ดี ดังนี้

  

1. มีความน่าเชื่อถือ

          สิ่งแรกที่คุณต้องพิจารณาก่อนเลือกใช้บริการบริษัทรับสร้างบ้านคือ ความน่าเชื่อถือ โดยดูว่าบริษัทนั้นตั้งอยู่ในสถานที่ใด มีการจดทะเบียนประกอบการถูกต้องตามกฏหมายหรือไม่ มีชื่อเสียง ประวัติ ผลงาน โดยควรดูไปถึงเรื่องมาตรฐานและคุณภาพของผลงานด้วย ที่สำคัญคือการติดต่อ ไม่ว่าจะเป็นทางโทรศัพท์หรือช่องทางอื่น เพื่อให้มั่นใจว่าหากเกิดปัญหาใดๆขึ้น เราจะสามารถติดต่อเขาได้ตลอดเวลานั้นเอง


2. มีแบบบ้านให้เลือกหลากหลาย

          บริษัทควรมีแบบบ้านให้เลือกอย่างหลากหลายมากกว่า 100 แบบ นอกจากนี้ควรปรับแต่งได้ตามความต้องการของลูกค้าในงบประมาณที่ลูกค้ามี บริษัทรับสร้างบ้านมืออาชีพจะมีความยืดหยุ่น สามารถรับฟังและตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้เสมอ เช่น ในกรณีที่เจ้าของบ้านไม่พอใจแบบที่บริษัทมีอยู่และต้องการแบบใหม่โดยเฉพาะ บริษัทก็สามารถบริการในส่วนนี้ได้ โดยให้สถาปนิกออกแบบให้ใหม่ เพียงแค่ให้ลูกค้าบอกรายละเอียดอื่นๆ อย่างขนาดบ้าน รูปทรง สัดส่วน เป็นต้น


3. มีทีมงานมืออาชีพ

          อีกหนึ่งสิ่งที่ควรใช้ประกอบการพิจารณาคือทีมงานของบริษัท อันได้แก่ สถาปนิก วิศวกร และทีมงานก่อสร้างที่มีความเชี่ยวชาญและประสบการณ์เพื่อให้สามารถให้คำปรึกษาและควบคุมการก่อสร้างได้อย่างถูกต้อง เพราะบุคลากรเหล่านี้เป็นส่วนสำคัญที่จะช่วยสร้างบ้านให้ได้มาตรฐานตามความต้องการของคุณ โดยอาจพิจารณาเลือกบริษัทที่มีทีมสถาปนิกและวิศวกรที่มีใบประกอบวิชาชีพอย่างถูกต้องก็จะยิ่งเพิ่มความน่าเชื่อถือมากขึ้น


4. ใบเสนอราคาและสัญญา

          หากว่าจ้างบริษัทรับสร้างบ้าน สิ่งที่ได้มาแน่นอนคือใบเสนอราคาและสัญญา ซึ่งทั้งสองอย่างเป็นสิ่งที่เราต้องอ่านให้ละเอียดเพื่อทำความเข้าใจอย่างถูกต้อง โดยสัญญาจะต้องมาในรูปแบบลายลักษณ์อักษรที่ระบุถึงรายละเอียดอื่นๆอย่างครบถ้วน เช่น ขอบเขตงานที่ทำ ระยะเวลา เงื่อนไข ฯลฯ ส่วนใบเสนอราคาก็เพื่อให้ผู้ใช้บริการสามารถควบคุมงบประมาณทั้งหมดได้ ซึ่งจะรวมถึงวัสดุที่ใช้ด้วย ในเรื่องวัสดุควรพิจารณาถึงความเหมาะสมของวัสดุที่ใช้ว่าคุ้มค่า ถูกต้อง และได้มาตรฐานตามที่ตกลงกันไว้หรือไม่ โดยอาจนำราคาและวัสดุของแต่ละบริษัทมาเปรียบเทียบเพื่อประกอบการตัดสินใจร่วมด้วยก็ได้


5. บริการหลังการขาย

          บริษัทรับสร้างบ้านที่ดี นอกจากจะสามารถก่อสร้างได้ตามกำหนดเวลาและได้มาตรฐาน ก็ควรจะมีบริการหลังการขายด้วย เช่น บริการดูแลรักษา หรือซ่อมบำรุง หรือแก้ไขข้อบกพร่องเล็กๆน้อยๆที่อาจเกิดขึ้นจากการก่อสร้าง การรับประกันคุณภาพบ้าน เป็นต้น


          ใครๆก็อยากมีบ้านในฝันเป็นของตัวเอง แต่การสร้างบ้านหนึ่งหลังถือเป็นการลงทุนที่ค่อนข้างสูง บางคนถึงกลับใช้เงินที่เก็บหอมรอมริบมาทั้งชีวิตเพื่อบ้านหลังนี้ การปลูกบ้านสักหลีงจึงเป็นงานที่ต้องพิถีพิถัน รวมถึงเลือกช่างผู้รับเหมาหรือบริษัทที่ไว้ใจได้มาทำ ในปัจจุบันมีบริษัทรับสร้างบ้านอยู่มากมาย และการเลือกบริษัทที่เป็นมืออาชีพจะช่วยให้คุณได้บ้านที่สวยดั่งใจ และลดปัญหาจุกจิกลงได้ เพราะฉะนั้นจึงควรเลือกบริษัทรับสร้างบ้านด้วยความรอบคอบ โดยอาจตรวจสอบจากลูกค้าคนอื่นที่เคยใช้บริการหรือตรวจสอบผลงานที่ผ่านมาของบริษัทนั้นๆ รวมไปถึงการดูรายละเอียดอื่นๆอย่างสัญญา ระยะเวลา วัสดุ เป็นต้น และเมื่อตัดสินใจทำแล้ว ก็อย่าวางใจทิ้งทุกอย่างไว้กับผู้รับเหมาโดยไม่เคยมาดูงานอีก แต่ควรหมั่นไปตรวจสอบบ่อยๆ เพื่อที่หากพบปัญหาก็จะได้จัดการได้ทันเวลาก่อนส่งมอบงานนั้นเอง


เรื่องราวที่ใกล้เคียง

ข้อมูลบริษัท
บริษัท บีเคเค เรียลตี้ ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด
79/48 ถนนนิมิตรใหม่ แขวงมีนบุรี เขตมีนบุรี กรุงเทพมหานคร 10510
020759855 ,0983029898
info.bkkrealty@gmail.com