แต่งบ้านแบบ Minimal Style

           Minimal Style คือสไตล์การแต่งบ้านที่ถูกนิยามว่า “น้อยแต่มาก” ด้วยสไตล์การออกแบบที่แม้จะเน้นความเรียบง่าย แต่สามารถตอบสนองการใช้งานได้อย่างครบถ้วน จึงทำให้การแต่งบ้านสไตล์นี้ได้รับความนิยมอย่างมาก โดยเฉพาะกับคนรุ่นใหม่ที่ชื่นชอบการแต่งบ้านที่ดูสะอาดตา ปลอดโปร่ง โล่งสบาย การแต่งบ้านสไตล์มินิมอลจะมีเอกลักษณ์คือการใช้สี โดยสีที่ใช้มักจะเป็นโทนสีอ่อนหรือแบบโมโนโทน มีการออกแบบโดยเน้นให้เห็นเส้นขอบชัดเจน มีรูปทรงเรขาคณิตที่สมดุล นอกจากนี้ใช้แสงสว่างจากแสงธรรมชาติเป็นหลัก หรือใช้หลอดไฟที่มีสีสรรไม่ฉูดฉาดมาก เพื่อสร้างความรู้สึกผ่อนคลายและอบอุ่น และด้วยความน้อยแต่มากอันเป็นเอกลักษณ์นี้ จึงทำให้ Minimal Style มักจะเป็นอันดับต้นๆที่ผู้คนมักจะนึกถึงเวลาแต่งบ้านอยู่เสมอ

 

ข้อดีของการแต่งบ้านแบบ Minimal Style

          - ทำความสะอาดได้ง่าย ด้วยความที่เป็นสไตล์การตกแต่งที่เน้นความโล่ง โปร่ง ใช้เฟอร์นิเจอร์น้อยชิ้น จึงทำให้ง่ายต่อการทำความสะอาด เพราะไม่ต้องคอยปัดกวาดเช็ดถูเฟอร์นิเจอร์ที่มีมากเกินไป จึงทำให้ลดเวลาทำความสะอาดลง มีเวลาพักผ่อนมากขึ้นอีกด้วย

          - ลดความเครียดลง สืบเนื่องมาจากข้อแรก การที่เราไม่ต้องเสียเวลาทำความสะอาด จะทำให้เรามีเวลาพักผ่อนมากขึ้น เพราะยิ่งมีของมากเท่าไร ภาระของเราก็จะยิ่งมีมากขึ้นเท่านั้น นอกจากนี้ยังช่วยให้บ้านดูสะอาด โล่งสบายตาอีกด้วย

          - บ้านดูน่าอยู่มากขึ้น บ้านที่มีของรกเกินไป ย่อมทำให้เกิดความรู้สึกอึดอัดทุกครั้งที่มอง ตรงกันข้ามกับบ้านที่อาจไม่มีของตกแต่งอะไรมากมาย แต่กลับมีสิ่งของที่แฝงงานศิลปะสวยๆ หรือเฟอร์นิเจอร์ที่มีฟังชั่นดีๆสักชิ้นสองชิ้น ก็คงจะทำให้บ้านดูน่าอยู่ไม่น้อย แน่นอนว่าสิ่งนี้ก็ขึ้นอยู่กับรสนิยมของเจ้าของบ้านอีกทีหนึ่ง

เทคนิคการแต่งบ้านแบบ Minimal Style

          1. สื่ออารมณ์ด้วยโทนสีอ่อน

โทนสีที่ใช้สำหรับแต่งบ้านสไตล์มินิมอลควรจะเป็นสีอ่อน สีเอิร์ธโทน หรือสีโทนอุ่นที่ดูไม่ฉูดฉาด ให้ความรู้สึกเรียบง่ายผ่อนคลาย เช่น สีน้ำตาล สีครีม สีเทา สีขาว เป็นต้น นอกจากนี้ควรเลือกสีที่เข้ากับเฟอร์นิเจอร์เพื่อเพิ่มมิติให้ดูสวยงามยิ่งขึ้น

          2. เฟอร์นิเจอร์น้อยแต่เยอะ

หัวใจของการแต่งบ้านสไตล์มินิมอลคือการใช้เฟอร์นิเจอร์ที่มีประโยชน์ในชีวิตประจำวันจริงๆ ดังนั้น คุณจึงไม่จำเป็นต้องซื้อเฟอร์นิเจอร์เยอะจนล้นบ้าน แต่ควรเลือกเฟอร์นิเจอร์ที่สามารถใช้ได้แบบมัลติฟังก์ชัน เช่น เคาน์เตอร์ที่สามารถใช้ในครัวและเป็นที่เก็บของได้ในเวลาเดียวกัน หรือเตียงนอนที่มีที่เก็บของใต้เตียง เป็นต้น อีกหนึ่งเทคนิคในการเลือกเฟอร์นิเจอร์คือการใช้เฟอร์นิเจอร์ที่ทำมาจากไม้หรือเหล็ก เพราะการใช้เฟอร์นิเจอร์ที่ทำมาจากวัสดุเหล่านี้จะช่วยให้บ้านดูคลีนสะอาดตา หรืออาจจะใช้ไม้ระแนงสีอ่อนมาทำเป็นฉากกั้นเล็กๆเพื่อแบ่งโซนใช้งานให้เป็นสัดส่วนเพื่อความโล่งสบายก็สามารถทำได้เช่นเดียวกัน ทั้งนี้ทั้งนั้น สีของเฟอร์นิเจอร์ควรจะสอดคล้องกับสีของโทนบ้านเพื่อความสวยงามนั้นเอง

          3. เปิดช่องรับแสงธรรมชาติ

การแต่งบ้านสไตล์มินิมอลจะเน้นแสงจากธรรมชาติเป็นหลัก ดังนั้นจึงต้องมีการติดตั้งหน้าต่างหรือช่องทางเพื่อรับแสงจากธรรมชาติเข้ามา และใช้ม่านบางแบบโปร่งแสงตกแต่งและบังสายตาจากคนภายนอก โดยอาจเลือกใช้ประตูบานเลื่นแบบโปร่งแสงเพื่อเพิ่มความมินิมอลให้กับบ้านของคุณ ซึ่งการทำเช่นนี้จะทำให้บ้านดูโปร่ง โล่ง สบายมากขึ้น นอกจากการรับแสงธรรมชาติเข้ามาทางช่องเปิดของบ้านแล้ว บางจุดอาจต้องใช้โคมไฟเพื่อให้แสงสว่าง ดังนั้น ควรเลือกโคมไฟที่มีรูปทรงเรียบง่ายและมีสีโทนเดียวกับห้อง เพื่อทให้บรรยากาศในบ้านดูอบอุ่นและเบาสบายมากขึ้นนั้นเอง

          4. ตกแต่งแบบชาวมินิมอล

เติมสีเขียวให้บ้านด้วยไม้ฟอกอากาศ บ้านสไตล์มินิมอลส่วนใหญ่มักจะใช้ต้นไม้ต้นที่ไม่ใหญ่มากมาวางประดับตกแต่งเพื่อเพิ่มความสดชื่นให้กับบ้าน โดยเฉพาะการใช้ต้นไม้มงคล ที่นอกจากจะสวยงามและสร้างบรรยากาศที่ผ่อนคลายแล้ว ยังเป็นการสร้างความสบายใจให้กับเจ้าของบ้านอีกด้วย นอกจากต้นไม้แล้ว การใช้กรอบรูปมาแปะผนังก็เป็นอีกหนึ่งวิธีที่น่าสนใจ โดยอาจเลือกกรอบรูปที่เป็นกรอบไม้ที่เข้ากับโทนสีของบ้านเพื่อความเรียบง่าย หรืออาจทำชั้นไม้ไว้บริเวณห้องรับแขกเพื่อวางของชิ้นเล็กๆสำหรับตกแต่ง เพียงเท่านี้ก็สามารถเพิ่มเสน่ห์ให้กับตัวบ้านได้ไม่น้อยทีเดียว

          Minimal Style คือการตกแต่งบ้านที่เรียบง่าย ใช้เฟอร์นิเจอร์น้อยชิ้น แต่ทุกชิ้นมากไปด้วยประโยชน์และคุ้มค่า เน้นความเป็นระเบียบเรียบร้อย โปร่ง โล่ง สบายตา ไม่มากไม่น้อยจนเกินไป นอกจากนี้ยังเป็นจัดพื้นที่บ้านให้กว้างโดยไม่วางข้าวของที่ไม่จำเป็นจนบ้านดูรก การตกแต่งบ้านสไตล์นี้จึงเหมาะกับคนรุ่นใหม่ที่มีเวลาน้อย แต่ต้องการบ้านที่สามารถมอบความสงบและอบอุ่นสบายให้แก่เจ้าของหลังกลับมาจากการทำงานที่เหน็ดเหนื่อย เพื่อจะได้มีเวลาพักผ่อนได้อย่างเต็มทีนั้นเอง