ทิศทางสำคัญอย่างไร
ในทางสถาปัตยกรรม ทิศคือตัวกำหนดว่าควรใส่ช่องลมในบริเวณไหนเพื่อให้ห้องสามารถรับลมและแสงได้ตลอดทั้งปี โดยธรรมชาติ ทิศทางของแสงและกระแสลมมักมีการเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา สถาปนิกมักจะใช้สิ่งเหล่านี้มาช่วยในการออกแบบอยู่เสมอ เช่น รูปแบบการโคจรของดวงอาทิตย์ที่จะขึ้นทางทิศตะวันออกในตอนเช้า โคจรโดยอ้อมไปทางทิศใต้ และตกทางทิศตะวันตกในตอนเย็น จากข้อมูลนี้สามารถอนุมานได้ว่าทางทิศใต้และทิศตะวันตกจะมีแสงสว่างและอากาศร้อนกว่าทิศอื่น ดังนั้นการออกแบบก็จะมีการคำนึงถึงปัจจัยเหล่านี้ร่วมด้วยนั้นเอง
ทิศทางแดด
ทิศเหนือ
เป็นทิศที่รับแสงแดดธรรมชาติน้อยที่สุด จึงทำให้ทิศนี้เย็นสบายตลอดทั้งปี เหมาะสำหรับคนที่ชอบอยู่ในห้องตลอดทั้งวัน เพราะห้องที่หันไปทางทิศนี้จะร้อนน้อยที่สุดจึงสามารถประหยัดค่าแอร์ได้ แต่อาจมีปัญหาในเรื่องของการตากผ้า เพราะเป็นทิศที่มีแสงแดดอ่อนที่สุดจึงทำให้เสื้อผ้าแห้งช้า รวมไปถึงไม่เหมาะกับผู้ที่ชอบปลูกต้นไม้ที่ต้องการแดดจัดอีกด้วย
ทิศใต้
เป็นทิศยอดนิยมในการเลือกคอนโด คอนโดที่หันไปทางทิศใต้จะมีอากาศถ่ายเทสะดวกสามารถรับลมธรรมชาติตลอดทั้งปี และเพราะทิศของแสงแดดประเทศไทยส่วนใหญ่แล้วจะส่องผ่านทิศใต้แบบอ้อมเล็กน้อยจึงทำให้ไม่โดยแสงแดดโดยตรง แม้จะร้อนเล็กน้อยในช่วงบ่ายถึงค่ำแต่ก็ไม่เท่ากับทิศตะวันตกและค่อนข้างเย็นตามธรรมชาติ แถมยังสามารถปลูกต้นไม้หรือปลูกผักสวนครัวได้อีกด้วย
ทิศตะวันออก
เป็นทิศที่จะได้รับแสงแดดในช่วงเช้า จนถึงเที่ยง ซึ่งจะเป็นแสงแดดที่ไม่แรงมากจนเกินไป เหมาะกับคนที่ต้องการตื่นเช้า ในทางกลับกันก็อาจเป็นข้อเสียกับผู้ที่ต้องการตื่นสายหรือในเช้าวันหยุดที่ต้องการพักผ่อน แต่ก็อาจแก้ไขได้โดยการติดม่าน 2ชั้นหรือฟิล์มกรองแสง
ทิศตะวันตก
เป็นทิศที่จะได้รับแสงแดดในช่วงบ่ายไปจนถึงตอนเย็น ส่งผลให้ที่อยู่อาศัยได้รับความร้อนมากตลอดทั้งวัน จึงกลายเป็นทิศที่คนส่วนมากไม่นิยมเลือกในการซื้อห้อง เพราะแสงแดดที่ส่องเข้ามาในยามบ่ายจะสะสมและทำให้ห้องมีอุณหภูมิสูงขึ้นมาก แม้จะสามารถใช้ม่านกัน UVหรือฟิล์มกรองแสงเพื่อลดความร้อนได้ แต่ก็อาจต้องเสียค่าแอร์เพิ่มขึ้นเช่นกัน
ทิศทางลม
นอกจากทิศทางการโคจรของแสงแดด อีกสิ่งหนึ่งที่ควรนำมาพิจารณาในการซื้อคอนโดด้วยคือ ทิศทางลม กระแสลมจะต่างจากแสงแดดที่จะแตกต่างกันไปในแต่ละประเทศ สำหรับประเทศไทยจะมีลมประจำฤดูที่เรียกว่าลมมรสุมอยู่ 2 ช่วงคือ ลมฤดูร้อน (พฤษภาคม-ตุลาคม) ที่จะพัดมาจากทางทิศใต้ และลมฤดูหนาว (พฤศจิกายน-กุมภาพันธ์) ที่จะพัดมาจากทางทิศเหนือ ลมทั้งคู่จะพัดเยื้องไปทางตะวันออกและตะวันตกในมุมองศาที่่ต่างกัน ดังนั้นการเลือกห้องจึงต้องดูทิศทางของลมร่วมด้วยนั้นเอง
ทิศทางตามหลักฮวงจุ้ย
นอกจากเรื่องทิศทางตามหลักวิทยาศาสตร์แล้ว หลายคนอาจจะใช้หลักฮวงจุ้ยเป็นตัวช่วยในการเลือกซื้อคอนโด แต่แม้จะเป็นศาสตร์ที่แตกต่างกัน แต่โดยพื้นฐานก็มาจากองค์ความรู้เรื่องทิศทางของแดดและลมเหมือนกัน เช่น หลักฮวงจุ้ยที่บอกว่า ห้องนอนห้ามอยู่ทางทิศตะวันตก เพราะเป็นทิศที่เชื่อมโยงกับโลกวิญญาณ ซึ่งจะสอดคล้องกับเรื่องทิศทางของแสงแดดที่กล่าวว่าห้องที่อยู่ในทิศตะวันตกจะร้อนมากในช่วงบ่ายไปจนถึงค่ำ จึงไม่เหมาะที่ใช้นอนหลับ นอกจากนั้นยังอาจทำให้เจ็บป่วยได้ง่าย เนื่องจากอุณหภูมิที่ไม่เหมาะสมนั้นเอง
ภายในคอนโดที่มีลักษณะการออกแบบภายในเหมือนกัน สิ่งที่ต่างกันคงจะเป็นตำแหน่งที่ตั้งของแต่ละห้อง ยิ่งทำเลดีราคาก็ย่อมแพงกว่า ดังนั้นการเลือกห้องจึงควรเลือกให้เหมาะสมกับงบประมาณของเราดีที่สุด แน่นอนการเลือกห้องให้ถูกทิศทางก็เป็นสิ่งที่จำเป็นเช่นเดียวกัน