ตกแต่งห้องรับแขกอย่างไรให้สวยปัง

23 ม.ค. 2566
          ห้องรับแขก หรือ ห้องนั่งเล่น เป็นพื้นที่กึ่งสาธารณะที่เป็นดั่งจุดศูนย์รวมของบ้าน และเป็นอีกหนึ่งสถานที่ที่ผู้อยู่อาศัยมักจะใช้เวลากับมันอยู่บ่อยครั้งไม่แพ้ห้องนอนหรือห้องรับประทานอาหาร นอกจากนี้ ยังเป็นด่านแรกที่เจ้าบ้านจะใช้เพื่อรับรองแขกผู้มาเยือน การตกแต่งภายในห้องรับแขกเป็นสิ่งสำคัญและมีรายละเอียดหลายที่ต้องพิจารณาอย่างถี่ถ้วน เพราะการตกแต่งสามารถสะท้อนบุคลิกและรสนิยมของเจ้าของบ้านได้ สำหรับใครที่กำลังมองหาแนวทางการตกแต่งห้องรับแขกให้สวยงาม เคล็ดลับเหล่านี้จะช่วยให้คุณได้ไอเดียใหม่ๆ เพื่อยกระดับความประทับใจให้แขกผู้มาเยือนได้ไม่รู้ลืมแน่นอน


 

1.โทนสี

          สีคือสิ่งที่สามารถสะท้อนบุคลิกและตัวตนของแต่ละคน การตกแต่งห้องรับแขกด้วยสีที่เหมาะสมจะทำให้ห้องสวยงามไม่น่าเบื่อ นอกจากนี้ยังทำให้รู้ถึงรสนิยมของเจ้าของบ้านอีกด้วย

         - สีโทนเย็น : เช่น สีเขียว สีน้ำเงิน เป็นต้น เป็นสีที่ให้ความรู้สึกสดชื่นและผ่อนคลาย การใช้สีโทนเย็นจะทำให้ห้องรับแขกของคุณดูเย็นตาสบายใจขึ้น

         - โทนสีกลางๆ : เป็นสีที่ไม่ได้อยู่ในโทนร้อนหรือโทนเย็น เช่น สีขาว สีเทา สีเบจ เป็นต้น การใช้โทนสีแบบนี้จะให้ความรู้สึกเรียบง่าย สะอาด สามารถใช้ร่วมกับสีอื่นๆได้ทุกโทนสีเพื่อสร้างมิติให้ห้องมากยิ่งขึ้น

         - สีพาสเทล : เป็นสีที่ถูกทำให้ลดความสดของสีลง เช่น สีชมพูอ่อน สีเขียวมินท์ เป็นต้น ห้องรับแขกที่ใช้โทนสีแบบนี้จะให้ความรู้สึกอ่อนโยนและโรแมนติก นิยมใช้ตกแต่งห้องในสไตล์วินเทจ


2.เฟอร์นิเจอร์

          เฟอร์นิเจอร์ที่ใช้ตกแต่งภายในห้องรับแขก ควรจะเลือกเฟอร์นิเจอร์ที่มีน้ำหนักเบา และสามารถปรับเปลี่ยนฟังก์ชันตามการใช้งานได้อย่างเหมาะสม เพราะห้องรับแขกเป็นห้องที่ต้องรองรับการใช้งานที่หลากหลายอยู่เสมอ ตัวอย่างประเภทเฟอร์นิเจอร์ที่เหมาะสมกับห้องรับแขก ดังนี้

          - เฟอร์นิเจอร์ที่ใช้งานได้อเนกประสงค์ : สำหรับบ้านที่มีพื้นที่น้อย การเลือกเฟอร์นิเจอร์ที่สามารถใช้งานได้อเนกประสงค์ถือเป็นสิ่งที่ตอบโจทย์มากที่สุด เพราะเฟอร์นิเจอร์ประเภทนี้มักจะมีฟังก์ชันการใช้งานที่หลากหลาย เช่น โซฟาที่สามารถกางออกเพื่อเปลี่ยนเป็นเบาะนอน เฟอร์นิเจอร์แบบนี้จะช่วยเพิ่มเสน่ห์ให้ห้องรับแขกของคุณดูสนุกสนานมากยิ่งขึ้น

          - เฟอร์นิเจอร์ที่มีที่เก็บของในตัว : เช่น ตู้โชว์ที่สามารถเก็บของเอาไว้ได้ การเลือกใช้เฟอร์นิเจอร์แบบนี้จะช่วยให้ห้องรับแขกเป็นระเบียบ ไม่ดูรก ทว่าการเก็บของลงในเฟอร์นิเจอร์ก็ควรเก็บอย่างระมัดระวัง ไม่อย่างนั้นพื้นที่ตรงนั้นก็อาจจะกลายเป็นที่เก็บขยะได้นั้นเอง


3.แสงสว่าง

          แสงสว่างที่ดีที่สุดที่ควรใช้ตกแต่งห้องรับแขกคือแสงธรรมชาติ เพราะแสงจากธรรมชาติมักจะให้ความรู้สึกที่สบายและดีต่อสายตามากกว่า ส่วนหลอดไฟควรใส่ไว้ในจุดที่จำเป็น ไม่เน้นสีสันจนมากเกินไป แต่เน้นความสวยงามและเข้ากันดีเป็นหลัก และเพื่อการนั้น เราจึงต้องรู้จักหลอดไฟแต่ละประเภทเพื่อเป็นแนวทางในการจัดไฟในห้องรับแขกได้

         - หลอดไฟ Daylight : เป็นแสงสีขาวสำหรับคนที่ชอบแสงที่ใกล้เคียงกับธรรมชาติ แสงแบบนี้จะช่วยให้ห้องสว่างมองเห็นได้ชัดเจนยิ่งขึ้น

         - หลอดไฟ Warm white : เป็นแสงโทนสีส้มที่ไม่ได้สว่างมากเกินไป ให้ความรู้สึกอบอุ่น สบายตา และมีกลิ่นอายความโรแมนติก

         - หลอดไฟ Cool White : เป็นหลอดไฟที่มีโทนแสงอยู่ระหว่าง Daylight และ Warm white ให้แสงเป็นสีฟ้าขาว ข้อเสียของแสงแบบนี้คือมักจะทำให้สีภายในห้องผิดเพี้ยนไปจากความเป็นจริงเล็กน้อย


4.ม่าน

         ม่าน เป็นสิ่งช่วยเพิ่มความเป็นส่วนตัวและและความปลอดภัย บ้านส่วนใหญ่มักจะทำห้องรับแขกไว้ส่วนหน้าสุดของบ้านและนิยมใช้กระจกขนาดใหญ่ติดเป็นผนังเพื่อทำให้ห้องโปร่งโล่ง สามารถมองเห็นเคลื่อนไหวภายนอกได้ชัดเจน และเพราะแบบนั้นห้องรับแขกจึงเป็นห้องที่มักจะได้รับแสงแดดเข้ามาอย่างเต็มที่ ม่านที่เหมาะสมจึงควรเป็นม่านที่กรองแสงได้ อาจใช้ม่าน 2 ชั้นที่มีม่านกันแสงชั้นหนึ่งและผ้าโปร่งบางๆอีกชั้นหนึ่ง สำหรับสีที่ควรใช้ควรเป็นโทนสีพื้นเพื่อให้ห้องดูสวยงามเรียบง่าย

         นอกจากการตกแต่งที่สวยงามแล้ว สิ่งสำคัญที่สุดของห้องรับแขกอีกหนึ่งอย่างคือ ความสะอาด เพราะห้องรับแขกคือห้องที่ต้องใช้ต้อนรับคนอื่น หากแขกเข้ามาในบ้านแล้วต้องพบกับห้องที่สกปรกรกรุงรัง ก็ยากที่ความประทับใจจะเกิดขึ้นได้ ดังนั้น เจ้าของบ้านก็ควรรักษาความสะอาดอยู่เสมอ ไม่เพียงแค่ของห้องรับแขก แต่รวมถึงส่วนอื่นๆในบริเวณบ้านด้วย แค่นี้ ห้องรับแขกของคุณก็จะเป็นที่ถูกใจทั้งผู้อยู่อาศัยและคนที่มาเยี่ยมเยียนอย่างแน่นอน


เรื่องราวที่ใกล้เคียง

ข้อมูลบริษัท
บริษัท บีเคเค เรียลตี้ ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด
79/48 ถนนนิมิตรใหม่ แขวงมีนบุรี เขตมีนบุรี กรุงเทพมหานคร 10510
020759855 ,0983029898
info.bkkrealty@gmail.com